Skip to content
หน้าแรก
ผลิตภัณฑ์
WiPLUX Product
M series
M40
M42
M80
M84
L series
L8016
L8030
S series
Q series
Co-Product
matismart (Smart Circuit Breaker)
M5StickC (Sensor)
Acrel (Energy meter)
Platform
บริการ
สนับสนุน
เกี่ยวกับเรา
บทความ
IoT
Hardware Differences Between Industrial IoT and IoT
PDU
พลังงาน
เครือข่าย
Network
ไฟฟ้า
ทำไมต้องวัดพลังงานไฟฟ้า
โรงไฟฟ้าในไทย
วิธีการประหยัดไฟฟ้า
ไฟฟ้า 1 เฟส 3 เฟส
กระแสไฟฟ้า AC กับ DC
APPLY DEALER
WiPLUX CLOUD
หน้าแรก
ผลิตภัณฑ์
WiPLUX Product
M series
M40
M42
M80
M84
L series
L8016
L8030
S series
Q series
Co-Product
matismart (Smart Circuit Breaker)
M5StickC (Sensor)
Acrel (Energy meter)
Platform
บริการ
สนับสนุน
เกี่ยวกับเรา
บทความ
IoT
Hardware Differences Between Industrial IoT and IoT
PDU
พลังงาน
เครือข่าย
Network
ไฟฟ้า
ทำไมต้องวัดพลังงานไฟฟ้า
โรงไฟฟ้าในไทย
วิธีการประหยัดไฟฟ้า
ไฟฟ้า 1 เฟส 3 เฟส
กระแสไฟฟ้า AC กับ DC
APPLY DEALER
WiPLUX CLOUD
กระแสไฟ AC กับ DC
กระแสไฟ AC
ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือ AC (Alternating Current) คือ กระแสไฟฟ้าในวงจรที่ไม่ได้เคลื่อนเป็นเส้นตรง แต่จะมีการเคลื่อนที่สลับทางกลับไปกลับมาอย่างเป็นจังหวะ มองภาพง่าย ๆ ก็คือ ไฟฟ้าจะเคลื่อนที่ออกจาก ขั้วลบ และ ขั้วบวก สลับกันและทำให้เกิดคลื่นความถี่ของไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Sine Wave) ที่ส่งออกไปตามสายไฟ โดยคลื่นความถี่นั้น จะใช้หน่วยวัดเป็น เฮิร์ต (Heartz) หรือ 1 รอบต่อวินาที ยกตัวอย่างเช่น กรณีถ้าไฟฟ้ากระแสสลับเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 30 เฮิร์ต ก็หมายถึงไฟฟ้านั้นจะถูกปล่อย 30 ครั้งจากแหล่งกำเนิดใน 1 วินาที และมีคลื่นความถี่ของไฟฟ้า 30 ลูก นั่นเอง
ประโยชน์ของการใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ
1. ใช้ร่วมกับระบบแสงสว่างได้ดี
2. ช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและสามารถผลิตได้ง่าย
3. มีความสามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องการกำลังไฟฟ้ามาก ๆ
4. ใช้งานกับเครื่องไฟฟ้าสำหรับเชื่อมวัสดุที่เป็นโลหะ
5. สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกชนิดในชีวิตประจำวัน
กระแสไฟ DC
ไฟฟ้ากระแสตรง หรือ DC (Direct Current) คือ ไฟฟ้าที่มีทิศทางการไหลไปในทิศทางเดียวกันอย่างสม่ำเสมอ และเป็นเส้นตรง รูปแบบการเคลื่อนที่ของไฟฟ้ากระแสตรง
สามารถอ้างอิงได้ตาม 2 ทฤษฎี คือไฟฟ้าจะวิ่งจากประจุบวกของแบตเตอรี่ หรือ เครื่องให้กำเนิดไฟฟ้ากระแสตรง ผ่านเข้าไปยังอุปกรณ์และกลับไปยังขั้วลบ โดยอิงตามทฤษฎี Conventional Current
การใช้งาน ข้อได้เปรียบของไฟฟ้ากระแสตรง คือการให้ค่าแรงดันไฟฟ้าที่คงที่และต่อเนื่อง มีหน่วยวัดเป็นจูลต่อคูลอมบ์ (โวลต์) ทำให้มันมีความจำเป็นต่อการใช้งานสำหรับวงจรอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายชนิด เพราะอุปกรณ์เหล่านั้นต้องการแรงดันไฟที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่สามารถรองรับไฟ AC ที่มีแรงดันสูงได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความเสียหาย
ดังนั้นอุปกรณ์อิเล็กอิเล็กทรอนิกส์ส่วนมากจึงต้องมี หม้อแปลง หรือ Power Adaptor เพื่อที่เวลาดึงไฟ AC ในบ้านมาใช้งาน ก็สามารถแปลงเป็น DC และมีค่าแรงดันคงที่ ตัวอย่างที่ชัดเจน ก็คือ โน้ตบุ๊ค หรือ โทรศัพท์มือถือ ที่มีแบตเตอรี่ในตัวเป็นต้น
แหล่งพลังงานของกระแสไฟฟ้า DC นั้นส่วนมากจะมาจาก ถ่านไฟฉาย โซลาร์เซลล์ เซลล์เชื้อเพลิง หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับที่ติดตั้งหม้อแปลงให้เป็นกระแสตรง
ประโยชน์ของการใช้ไฟฟ้ากระแสตรง
1. ใช้ในการเดินไฟฟ้าเพื่อเคลือบโลหะต่าง ๆ
2. ใช้ในการทดลองหรือจิวัยทางเคมี
3. มีความสามารถในการตัดวัสดุที่เป็นโลหะและเชื่อมโลหะได้เป็นอย่างดี
4. ใช้สำหรับทำประจุไฟฟ้าเพื่อนำเข้าแบตเตอรี่เพื่อนำไปใช้งานในชีวิตประจำวัน
5. ใช้ในการต่อวงจรเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพื่อให้ใช้งานได้
6. ใช้สำหรับเป็นไฟฟ้าสำหรับนักเดินทาง เช่น ไฟฉาย